
1. เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน หรือเปลี่ยนช้า ![]()
อาการเปลี่ยนเกียร์ D หรือ R แล้วตัวรถไม่มีอะไร
เกิดขึ้น หรือรอนานกว่ารถจะขยับไปได้ หรือเปลี่ยนเกียร์
ช้าจนรอบเครื่องยนต์ สูงมากผิดปกติ อาจเกิดจาก
ระบบแรงดันน้ำมันเกียร์ผิดปกติ หรือกล่องควบคุม
การทำงานระบบเกียร์มีปัญหา ควรรีบนำรถเข้า
ตรวจเช็กหาจุดบกพร่อง เพราะถ้าปล่อยไว้จะทำให้
เปลืองน้ำมัน และยังอาจส่งผลให้ชุดเกียร์เสียหายได้
2. เกียร์กระตุก หรือกระชากขณะเกียร์เปลี่ยน ![]()
ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในจังหวะเลื่อนคันเกียร์ไปยังตำแหน่ง
D หรือระหว่างที่ขับรถจนเราสามารถรู้สึกได้
สาเหตุเบื้องต้นอาจเกิดจาก ความสกปรกในระบบเกียร์
กรองน้ำมันเกียร์เกิดการอุดตัน ทำให้การทำงาน
ของวาล์วในชุดเกียร์ไม่ราบรื่น หรือเกิดจากชุดคลัตช์
เกิดการชำรุด คงต้องเริ่มจากการตรวจสอบระยะเวลา
ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ล่าสุด ถ้าถึงกำหนด
ควรเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นคงต้องนำ
รถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็กอย่างละเอียด
3. เกียร์เสียงดังผิดปกติ หรือมีกลิ่นไหม้ ![]()
ระบบเกียร์ออโต้จะประกอบไปด้วยชุดเฟือง
และชุดคลัตช์ ซึ่งต้องใช้น้ำมันในการหล่อลื่น
ช่วยลดการสึกหรอ และระบายความร้อน
ซึ่งหากน้ำมันมีปริมาณต่ำส่งผลให้เฟืองเกียร์
กระทบกันโดยตรง จนทำให้เกิดเสียงดังขณะทำงาน
และเกิดความร้อนสูงภายในชุดเกียร์ จนส่งกลิ่นเหม็นไหม้
ออกมา จึงควรตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ให้อยู่
ในระดับปกติ เพราะหากมีการรั่วซึมอาจส่งผลให้
ชุดเกียร์เกิดเสียหาย
4. รอบเครื่องขึ้น แต่รถไม่ไป หรือไปช้ากว่าที่ควรจะเป็น ![]()
เกิดจากผ้าคลัตช์สึกหรอจากการใช้งาน
หรือขับรถลุยน้ำท่วม สังเกตได้จากเมื่อเราเร่งเครื่อง
แต่รถไม่ไป หรือช้าผิดปกติ ควรนำรถเข้าตรวจเช็ก
จากช่างผู้ชำนาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก : etoyotaclub









